เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลายคนอาจมองว่าเป็นอนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืน หลายประเทศทั่วโลก เช่น จีนและยุโรป กำลังเร่งพัฒนาและส่งเสริมการใช้งาน EV อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหันมาดูประเทศที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างญี่ปุ่น กลับพบว่า EV ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า ทำไมญี่ปุ่นถึงยังไม่อินกับรถยนต์ไฟฟ้า และเปรียบเทียบกับ สถานการณ์ในประเทศไทย ที่ดูเหมือนจะเร่งเครื่องแซงไปไกลกว่า
Contents
ญี่ปุ่น: ทำไม EV ยังไม่บูม?
- ญี่ปุ่นเชื่อมั่นในรถยนต์ไฮบริด (Hybrid)
ญี่ปุ่นเป็นผู้นำเทคโนโลยีไฮบริดมาอย่างยาวนาน เช่น Toyota Prius ที่ประหยัดน้ำมันและยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เช่น Toyota และ Honda จึงยังคงโฟกัสกับไฮบริดมากกว่า EV เพราะมองว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สมดุลระหว่างเทคโนโลยีและความคุ้มค่า - โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ตอบโจทย์
แม้ญี่ปุ่นจะมีสถานีชาร์จไฟฟ้ามากกว่า 30,000 แห่ง แต่การใช้งานยังไม่ครอบคลุม
- สถานีชาร์จส่วนใหญ่เป็นแบบชาร์จช้า ใช้เวลานาน
- คนในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว มักไม่มีที่จอดรถส่วนตัว จึงติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านไม่ได้
- ราคารถ EV ยังสูงเกินไป
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ แต่ราคารถยนต์ EV ยังสูงเมื่อเทียบกับไฮบริดหรือรถน้ำมันแบบเดิม เช่น Nissan Leaf ซึ่งเป็น EV รุ่นแรกๆ ของโลก ก็ยังมีราคาที่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า “แพงเกินไป” - พฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยน
คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับรถยนต์ที่เชื่อถือได้และบำรุงรักษาง่าย เช่น รถน้ำมันหรือไฮบริด การปรับตัวมาใช้ EV ซึ่งมีต้นทุนแบตเตอรี่และการซ่อมที่ซับซ้อน ทำให้คนญี่ปุ่นยังลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้ EV
ไทย: ทำไม EV กำลังมาแรง?
- รัฐบาลไทยสนับสนุนเต็มที่
รัฐบาลไทยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมาตรการสนับสนุน เช่น การลดภาษีสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมถึงเงินอุดหนุนให้คนซื้อรถ EV - ตลาดรถ EV ราคาจับต้องได้
รถยนต์ EV ในไทย เช่น MG ZS EV และ GWM ORA Good Cat ได้รับความนิยมเพราะราคาสามารถแข่งขันได้ แถมมีโปรโมชั่นดึงดูด เช่น ชาร์จฟรี หรือการรับประกันแบตเตอรี่ - สถานีชาร์จกำลังขยายตัว
แม้สถานีชาร์จในไทยจะยังไม่มากเท่าญี่ปุ่น แต่ผู้ให้บริการอย่าง EA Anywhere และ PEA VOLTA กำลังขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง - ความสนใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
คนไทยเริ่มมองว่า EV เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงและลดมลพิษ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
เปรียบเทียบญี่ปุ่นและไทย: ใครพร้อมกว่ากัน?
ปัจจัย | ญี่ปุ่น | ไทย |
---|---|---|
โครงสร้างพื้นฐาน | มีสถานีชาร์จมาก แต่ไม่สะดวกใช้งาน | กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว |
การสนับสนุนจากรัฐบาล | มุ่งเน้นไปที่รถไฮบริดมากกว่า EV | สนับสนุน EV อย่างจริงจัง |
ราคารถยนต์ EV | สูงและตัวเลือกรุ่นยังจำกัด | ราคาถูกลงและตัวเลือกเพิ่มขึ้น |
พฤติกรรมผู้บริโภค | นิยมไฮบริดและรถน้ำมัน | เริ่มเปิดรับ EV มากขึ้น |
สรุป
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านยานยนต์ แต่การเปลี่ยนผ่านสู่ EV กลับยังช้ากว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากการเน้นไฮบริด โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ตอบโจทย์ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังไม่พร้อม ขณะที่ประเทศไทย กำลังเร่งพัฒนาตลาด EV อย่างเต็มกำลัง โดยมีการสนับสนุนจากรัฐบาลและตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้บริโภค