กระเป๋ารันโดเซรุคืออะไร ? ทำไมเด็กประถมญี่ปุ่นใช้กัน ?

ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นหรือ ดูหนัง ซีรี่ญี่ปุ่น
อาจเคยเห็นเด็ก ๆ ระดับประถม
ใช้กระเป๋าลักษณะตามภาพด้านบน
มีรูปลักษณ์เหลี่ยม ๆ ดูแข็งแรง

ส่วนประเทศไทย เด็ก ๆ เวลาไปโรงเรียน
มีกระเป๋าประจำตัวเป็นของใครของมัน
ไม่ได้มีการกำหนดลักษณะตายตัว
ว่าต้องเป็นทรงแบบใด
ขอให้ใส่อุปกรณ์เรียนได้เพียงพอ

ทำไมเด็ก ๆ (ระดับประถม)
ของประเทศญี่ปุ่นใช้กระเป๋ารันโดเซรุ
เรามาติดตามอ่านกันได้เลย  

ที่มากระเป๋า “รันโดเซรุ”

ว่ากันว่ากระเป๋า รันโดเซรุ
หรือกระเป๋าสะพายหลังวัสดุหนังแท้
นำเข้ามาจากประเทศ “เนเธอร์แลนด์”
ตั้งแต่ช่วงปลายยุคเอโดะ
( ยุคเอโดะ ค.ศ. 1603 – ค.ศ. 1868)
ที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ
ให้ต่างชาติเข้ามาทำการค้า

การใช้งาน

ในตอนนั้น กระเป๋าดังกล่าว
ใช้งานสำหรับใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับทหาร
เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่มีความแข็งแรง
ส่วนเด็ก ๆ ในสมัยนั้น
เอาผ้าห่ออุปกรณ์มัดแล้วถือไป

ยุคเมจิ

กระเป๋ารันโดเซรุ
เริ่มใช้ในการเรียนในยุคเมจิ
โดยมีที่มาดังนี้

สถานศึกษาสำหรับราชวงศ์ญี่ปุ่น

สถานศึกษาสำหรับราชวงศ์ญี่ปุ่น
“Gakushuin”
ถูกก่อตั้งในปั ค.ศ. 1877
การแต่งกายของนักเรียนในสถานศึกษาดังกล่าว
มีการสวมชุดนักเรียน
การเดินทางไปเรียนของเด็ก ๆ ในสมัยนั้น มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถม้า รถเจ๊ก (รถลากแรงคน) เป็นต้น อุปกรณ์เรียนต่าง ๆ ยังไม่ได้มีกระเป๋าใส่
บางคนฝากอุปกรณ์การเรียนให้กับคนใช้
บางคนก็ห่อผ้าเอา

ผ่านไป 8 ปี

หลังก่อตั้งสถานศึกษาผ่านไป 8 ปี
ทางสถานศึกษามีเจตนารมณ์ที่ว่า
“สถานศึกษา ทุกคนต้องความเท่าเทียม”
“อุปกรณ์การเรียนควรถือมาด้วยตนเอง”

จึงได้ตั้งกฎห้ามเดินทางด้วยรถม้า รถเจ๊ก
ห้ามฝากอุปกรณ์การเรียนกับคนใช้ขึ้น
จึงได้มีการพิจารณากระเป๋าสะพายหลัง
เพื่อให้มีความสะดวก
ที่มีแขนสองข้างไว้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
แต่ในตอนนี้ยังไม่ได้เป็นกระเป๋า “รันโดเซรุ”
เป็นกระเป๋าผ้าแบบบ้าน ๆ เท่านั้น

ผ่านไปอีกสองปี

จักรพรรดิไทโชเข้าศึกษาในสถานศึกษาแห่งนี้
(ในตอนนั้นเป็นมกุฎราชกุมาร)
นายกรัฐมาตรี ฮิโรบูมิ อิโต
ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศญี่ปุ่น
ได้มอบกระเป๋ารันโดเซรุเพื่อแสดงความยินดี
ภายหลังจึงได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในชนชั้นสูง
แต่ชนชั้นกลางยังใช้แบบธรรมดา
เนื่องราคาแพง

ยุคโชวะ

จนถึงยุคโชวะในช่วงปี ค.ศ. 1955
เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
รวมไปถึงการพัฒนาหนังเทียมขึ้นมา
จึงได้มีการเอาหนังเทียมมาสร้างกระเป๋ารันโดเซรุ
เพื่อให้มีราคาย่อมเยาว์ชาวบ้านทั่วไปจับต้องได้
ทำให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกชนชั้นจนถึงปัจจุบัน

ราคา

ราคากระเป๋ารันโดเซรุ
มีช่วงราคาตั้งแต่ 3000 บาทจนถึง 60,000 บาท

ช่วงราคาตั้งแต่ 3000-6000 บาท

เป็นกระเป๋าที่ผลิตจากต่างประเทศ
(โดยส่วนมากเป็นประเทศจีน)
วัสดุกระเป๋าเป็นหนังสังเคราะห์
ความทนทานจึงอาจน้อย
ใช้งานได้ไม่ถึง 6 ปี

ช่วงราคา 9000-12000 บาท

เป็นกระเป๋าแบรนด์ในประเทศ
วัสดุเป็นหนังเทียมส่วนมาก
หรืออาจมีรุ่นคุณภาพสูงที่ตกรุ่นแล้ว
ลดราคาขายในช่วงราคานี้

ช่วงราคา 15000-21000 บาท

เป็นกระเป๋าแบรนด์ดังในประเทศ
ที่อาจเห็นได้ในสื่อมีเดียต่าง ๆ
วัสดุอาจเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมเกรดดี
ในเรื่องของการรับประกัน
ช่วงนี้เป็นต้นไปถือว่าดีหายห่วง

ช่วงราคาที่สูงกว่านี้

เป็นหนังแท้
มักจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม
ความหรูหรา ดูได้จากราคา

ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นซื้อรันโดเซรุ
ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 14,000 บาท
ซึ่งเป็นหนังแท้
หรือหนังเทียมเกรดดี

เหตุผลที่นักเรียนระดับประถม
ใช้กระเป๋ารันโดเซรุ

เด็กอายุยังน้อย
อาจไม่ได้รักษาของ
หรือไม่ได้ใช้งานสิ่งของอย่างระมัดระวัง
ดังนั้นความแข็งแรงของกระเป๋าเป็นสิ่งที่สำคัญ

ความแข็งแรง

กระเป๋ารันโดเซรุ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
เพราะ กระเป๋าแข็งแรงไม่พังง่าย
ถูกออกแบบมาใช้งานได้อย่างน้อย 6 ปี
(มีประกัน ถ้าเสียหายสามารถซ่อมหรือเคลมได้)
ซึ่งเป็นระยะเวลาเรียนระดับประถมพอดี
(ไม่ต้องซื้อกระเป๋าใหม่ในช่วง 6 ปี)

ความสะดวก

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง “ความสะดวก”
ที่สามารถจุได้เยอะ และ

ความปลอดภัย

ของสิ่งของข้างในรวมไปถึงตัวเด็กที่ใช้
ตัวอย่างเช่น
เด็กสะพายกระเป๋า
เล่นกับเพื่อนหยอกล้อกันจนล้ม ตัวหงายไป
ตัวกระเป๋าสามารถรองรับแรงกระแทก
ให้มีความปลอดภัย
โดยที่สิ่งของข้างในไม่เสียหายด้วย

ทำไมเด็กมัธยมไม่ใช้กระเป๋ารันโดเซรุ

กระเป๋าถูกออกแบบใช้งานอยู่ 6 ปี (ประกันแค่ 6 ปี)
และสภาพกระเป๋าคงจะดูไม่สวยนัก
เด็กที่ขึ้นระดับมัธยม
แน่นอนว่าอยากได้กระเป๋าใหม่
แต่กระเป๋ารันโดเซรุคงจะไม่ตอบโจทย์แล้ว
เนื่องจาก

สรีระร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไป

ขนาดของกระเป๋าอาจไม่พอดีกับร่างกาย
จึงได้ใช้กระเป๋ารูปแบบอื่นเสียมากกว่า
นอกจากนี้
ถ้ายังใช้กระเป๋าสมัยประถมในช่วงมัธยม
อาจปัจจัยที่ก่อให้เกิดการโดนบูลลี่ในโรงเรียนได้

สรุป

เด็กเล็ก ๆ ใช้ของอย่างไม่ระมัดระวังเท่าไรนัก
กระเป๋ารันโดเซรุที่มีความทนทานและความปลอดภัย
จึงตอบโจทย์สำหรับพ่อแม่ไม่ต้องซื้อกระเป๋าบ่อย ๆ