ติดตามเพจ Facebook เพื่อเป็นกำลังใจ : )FACEBOOK

เที่ยวญี่ปุ่น ภูเขาฟูจิ ปีนคนเดียวพิชิตยอด

สมหญิง

– ช่วงเวลาที่ปีนฟูจิ ?
– อุปกรณ์ที่ควรมีในการปีนฟูจิ ?
– เส้นทางปีนเขาฟูจิสำหรับมือใหม่
– ใช้เวลาในการปีนเขา เท่าไร ?
– ข้อควรระวังในการปีนเขาฟูจิคือ ?
– มารยาทบนภูเขาคืออะไร ?

ช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นในระหว่างที่ได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น

หลังจากทำโปรเจกต์เสร็จเรียบร้อย

ยังมีมีเวลาในการท่องเที่ยวก่อนกลับประเทศไทย

ผู้เขียนได้มีโอกาสขึ้นเขาฟูจิคนเดียว

บทความนี้

มาเล่าประสบการณ์ให้ได้ติดตามอ่านกันครับ

บทความนี้เหมาะสำหรับใคร
  • ผู้ที่สนใจปีนภูเขาไฟฟูจิ
  • ผู้ที่กังวลว่าการปีนภูเขาฟูจิ ไปคนเดียวได้หรือไม่
Contents

แรงจูงใจในการไปปีนภูเขาไฟฟูจิ

  • ความอยากลอง “สักครั้งหนึ่งในชีวิต” ว่าเป็นอย่างไร
  • อยากท้าทายสิ่งใหม่ ๆ ที่คิดว่ายาก
  • อยากเพิ่มความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง

ช่วงเวลาที่ไป

ภูเขาฟูจิสามารถขึ้นไปปีนพิชิตยอดได้ในช่วงเดือน กรกฎาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม

ผู้เขียนไปช่วงเดือนสิงหาคม

ซึงเป็นเวลาที่ใกล้จะได้กลับประเทศไทยแล้ว

การเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง

  • เช็คพยากรณ์อากาศ (แต่สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน)
  • จองที่พักบนเขา (ถ้าไม่จองไม่มีที่ให้พัก)
  • ร่างกาย (ผู้เขียนเดินไปมหาลัยขึ้นเนินลงเนินเป็นประจำจึงพอจะมีแรง)

อุปกรณ์ที่เตรียมไป

พยายามเอาของไปให้น้อยที่สุดใส่กระเป๋าสะพาย

อุปกรณ์ทั้งหมดที่ผู้เขียนเตรียมไปดังต่อไปนี้

  • ชุด 1 ชุด (กะไม่อาบน้ำ)
  • ชุดกันหนาว (ถึงจะไปฤดูร้อน บนเขาหนาวจนมือสั่น)
  • รองเท้าสำหรับเดิน (แต่ถ้าให้ดีควรเป็นรองเท้าปีนเขา)
  • ไฟฉายคาดหัว (สำหรับช่วงเช้ามืดที่เดินทางจากที่พักไปจนถึงยอด)
  • น้ำดื่ม 2 ลิตร (สำหรับสองวัน 1 คืน)
  • ขนมให้พลังงาน Calorie Mate 4-5 อัน
  • ชุดกันฝนเล็ก ๆ
  • เงินสด
  • Power bank
  • หมวกปีนเขา (กันแดด)
  • ถุงมือ (กันหนาว)
  • ยาแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย

เส้นทางในการขึ้นเขาฟูจิ

เส้นทางในการปีนภูเขาฟูจิมีหลายเส้นทาง

ความยากง่ายในแต่ละเส้นทาง มีความแตกต่างกัน

เส้นทางที่ผู้เขียนเลือกไปคือ “เส้นทางโยชิดะ”

เพราะเป็นเส้นทางสำหรับมือใหม่

มีสถานที่อำนวยความสะดวกมากกว่าเส้นทางอื่น

แต่นักท่องเที่ยวจะเยอะมากกกกกก

เส้นทางโยชิดะ ขึ้นเขาและลงเขาขาละ 7.5 กิโลเมตรกว่า ๆ

เราจะใช้เวลาปีนเขาโดยประมาณ

6 ชั่วโมง ลงเขา 4 ชั่วโมง

การเดินทาง

ผู้เขียนอยู่เมืองโกเบจึงวางแผนตั้งต้นจากโกเบ

ทั้งนี้ ถ้าอยู่โตเกียวจะเดินทางสะดวกกว่าอยู่ฝั่งโอซาก้า

STEP

โกเบ → โอซาก้า

นั่งรถไฟสายฮังคิวธรรมดาในช่วงเย็น ไปสถานีขึ้นรถบัส

STEP

โอซาก้า → สถานีคาวากุจิโกะ

นั่งรถบัสกลางคืน นอนมาบนรถให้ได้เพื่อให้มีแรงปีนเขา

รถบัสจะถึงสถานีคาวากุจิโกะในช่วงเช้า ๆ

STEP

สถานีคาวากุจิโกะ → ภูเขาฟูจิชั้น 5 (เส้นทางโยชิดะ)

ภาพสถานีคาวากุจิโกะ

มีรถบัสจากสถานีคาวากุจิโกะ เพื่อไปยังภูเขาฟูจิชั้น 5

(ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง)

STEP

ภูเขาฟูจิชั้น 5 → ที่พักบนภูเขาฟูจิชั้น 8

ขอให้ถึงชั้น 5 ก่อนเที่ยง

เราจะใช้เวลาขึ้นเขาไปยังที่พักบนชั้น 8

โดยใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง

ชั้น 5 มีร้านอาหารหรือจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ

น้ำดื่ม ขนม หรือ ไม้เท้าสำหรับปีนเขาเป็นต้น

ถ้าหิว หรือมีอุปกรณ์อะไรที่ขาดเหลือ

ให้เตรียมได้ในที่แห่งนี้

และอย่าลืมเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนขึ้นเขา

เริ่มต้นปีนเขา

หลักจากเช็คความพร้อมเรียบร้อยทั้งเสบียง

และร่างกาย สภาพอากาศดี ลุย

เริ่ม

ไปตามทางที่กำหนด มีคนประปราย ยังไม่มากนัก

ป้าย

เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เจอป้ายบอกเส้นทาง

ยอดอยู่หนใด

หนทางยังยาวไกล เส้นทางคดเคี้ยว

เส้นทางประมาณนี้

ขึ้นไปเรื่อย ๆ เริ่มเจอเมฆ ขออย่ามีฝน

มองจากข้างบนลงมา

อากาศดี วิวสวย อากาศเย็น ๆ

หนทางยังยาวไกล

เราจะขึ้นไปถึงยอดได้จริง ๆ หรือ

ทางแบบนี้ก็มีนะ

การปีนขึ้นระดับความชันประมาณหนึ่ง

ระมัดระวังในแต่ละก้าว

ภูเขาไฟฟูจิ ชั้น 7

ไม้นี้ไม่ได้เป็นไม้เท้าแต่อย่างใด

ซื้อมาจากชั้น 5 เพื่อประทับตราเพื่อเป็นที่ระลึกในแต่ละจุดพักเท่านั้น

ให้สังเกตสี

เส้นทาง Yoshida เป็นสีเหลือง ดูสีให้ถูกไม่หลงแน่

ณ จุดนี้ ใช้เวลา 295 นาทีเพื่อถึงยอด

มันช่างแตกต่างกับทางช่วง ชั้น 5

ไปเรื่อย ๆ

ชั้น 8 แล้วว

แต่ยังไม่ถึงจุดพักที่เราจองไว้ เพราะฉะนั้น ไปต่อ

ยังคงเป็นทางแบบนี้ เรื่อย ๆ

แล้วจะไม่ให้ไม่ปวดขาได้อย่างไร

บันไดก็มา

แต่ละขั้นก็สูงเหลือเกิน

ถึงจุดพัก

ถือโอกาสให้คนแถวนั้นถ่ายรูปให้

ณ จุดพัก

ไม่รู้ทำไม ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปบรรยากาศหลังจากนี้เท่าไร

สงสัยเหนื่อย

ที่พักที่จองไว้ด้านบน เป็นห้องขนาดใหญ่ นอนรวม ๆ กัน มี ถุงนอนขนาดกางไว้แล้ว

ระยะห่างกับคนข้าง ๆ จะ อยู่ราว ๆ 2-3 ช่วงแขน

ก่อนที่จะงีบเอาแรงเพื่อตื่นมาในช่วงเช้ามืด

ไปกินอาหารที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ เป็นข้าวแกงกะหรี่

อยู่บนเขา อะไรก็อร่อย

กินเสร็จ ไม่รอช้า เข้าไปงีบเอาแรง

เวลาราว 6 โมงเย็น

บริเวณรอบที่นอน ๆ มีคนกุก ๆ กัก ๆ หรือ นอนกรนตลอด

แต่ใครจะสน เหนื่อยแล้ว ยังไงก็นอนได้ ราตรีสวัสดิ์

STEP

ที่พักบนภูเขาฟูจิชั้น 8 → ยอดเขาฟูจิ

ตื่นมาในเวลา ตี 2 กว่า

เตรียมเดินทางต่อไปสู่ยอดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

ใส่ไฟฉายคาดหัวไว้ดูทางที่ตัวเองจะเดิน

ไม่ต้องกังวลว่าบริเวณรอบ ๆ จะมืด

เพราะคนใส่ไฟฉายคาดหัวเดินกันเป็นสายเยอะมาก

แทบจะเห็นไฟเป็นเส้น ๆ ขึ้นไปด้านบน

อากาศตอนนี้ค่อนข้างหนาว แต่ก็ต้องลุย

ถึงชั้น 10

หนาวถ่ายไม่ค่อยชัด

ข้างบนคนมหาศาล มีร้านราเมงอยู่ด้านบนให้กิน

รสชาติไม่ต้องพูดถึง กินอะไรก็อร่อยตอนนี้

ต่างเฝ้ารอดวงตะวัน
สำเร็จ

พระอาทิตย์ขึ้นมาเหนือเมฆสุดแสนจะประทับใจ

หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ

บนยอดสามารถเดินขึ้นเขาไปเพื่อเดินรอบปล่องไฟ

(รอบปล่องไฟมีระยะทาง 4 กิโลเมตร เดินใช้เวลา 2 ชั่วโมง )

แต่รอบนี้ไม่ได้ไปเดิน ต้องเก็บแรงไว้ลงจากเขากลับบ้านด้วย

STEP

ยอดเขา → กลับ

ลงจากเขา ใช้เวลาน้อยกว่าการปีนขึ้นมา

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสบายกว่า

เพราะเป็นถนนหินกรวดที่มีความละเอียด

หมายความว่า มีโอกาสลื่นมาก (ถ้าไม่ใช่รองเท้าปีนเขา)

เห็นคนล้มกลิ้งต่อหน้าก็หลายคน

ตั้งสติในแต่ละก้าว อย่าเดินผิดท่าเดี๋ยวเจ็บหัวเข่า

เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่ 5 กินข้าว พักผ่อนเรียบร้อย

ให้รอรถบัสไปสถานีคาวากุจิโกะโดยไว

เพราะคนใช้บริการเยอะมากจนมีโอกาสอย่างสูงที่ไม่ได้นั่ง

เดินทางกลับได้อย่างปลอดภัยในสภาพขาลากไม่ไหวแล้ววว (FIN)

ทิ้งท้าย

หลายคนอาจมีความรู้สึกที่ว่า

” อยากพิชิตยอดเขาฟูจิให้ได้สักครั้งในชีวิต ”

แน่นอนว่า

เส้นทางการพิชิตยอดไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่ถ้าเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็น “ร่างกาย” “อุปกรณ์” “ข้อมูล” ให้ดี

ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม

ในระหว่างการปีน

จะเจอบททดสอบกับความรู้สึกของตัวเองประมาณว่า

“Guมาทำอะไรที่นี้วะ ?”

“จะเหนื่อยไปทำไม กลับตอนนี้ยังทัน กลับดีมั้ย”

เดินไปคิดไป แต่ก็ไม่ได้คำตอบ

ได้คำตอบแค่ว่า “ต้องไปถึงยอดให้ได้”

ถ้าใครกำลังคิดอยากไปลองพิชิตยอดภูเขาฟูจิ

แต่รู้สึกกลัวหรือกังวลอยู่

อย่าได้กังวล

เราจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างแน่นอน

สิ่งที่ได้รับหลังจากที่ปีนภูเขาฟูจิสำเร็จ

  • รู้สึกภูมิใจที่ปีนสำเร็จ
  • เกิดความมั่นใจในตัวเองในการทำสิ่งใด ๆ
  • รู้ขีดจำกัดของตัวเอง
  • ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น

ข้อควรระวัง

  • Altitude Sickness (ภาวะแพ้ที่สูง) อย่าขึ้นเขาเร็วเกินไปจะทำให้เกิดการปวดหัว หายใจลำบาก
  • หลงทาง (บางครั้งจะเจอทางแยก อย่าเดิมตามคนเฉย ๆ ให้ดูป้ายด้วย มิเช่นนั้นอาจเผลอเดินลงเขาไปในเส้นทางอื่นก็ได้)
  • เวลาลงจากเขา ตั้งแต่ชั้น 8 ไปถึงชั้น 5 ไม่มีห้องน้ำ

มารยาทบนภูเขา

  • ไม่ทิ้งขยะบนภูเขา หรือตามทาง
  • ไม่เดินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ (เชือก) เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นหรือตนเองได้ เช่น ก้อนหินจะร่วงใส่ด้านล่าง หรือมีหินมาร่วงมาใส่จากด้านบน)
  • กรณีด้านบนรวมไปถึง ต้องไม่ข้ามเชือกเพื่อไปพักหรือถ่ายภาพด้วย
  • เตรียมทิปเป็นเศษเหรียญ 100-300 เยน เมื่อใช้บริการห้องน้ำ
  • “น้ำ”เป็นทรัพยากรที่มีค่าเป็นอย่างสูงบนภูเขาใช้อย่างระมัดระวัง
  • ไม่เก็บก้อนหินหรือดอกไม้หรืออะไรก็ตามบนเขา

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • Copied the URL !
  • Copied the URL !
Contents